หลังจากทั่วโลกได้เห็นบทเรียนจากโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ของญี่ปุ่น ก่อให้เกิดอาการ "เสียว" กันทั่วหน้า โดยเฉพาะประเทศไทยของเรา ซึ่งเถียงกันมานาน มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้าน ยิ่งในช่วงนี้คนเห็นด้วยเพิ่มขึ้นแบบพุ่งปรี๊ด...นำโด่งฝ่ายสนับสนุนไปไกล สำหรับผมคงจะไม่เข้าข้างฝ่ายไหน แต่จะขอเสนอทางเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจในความคิดผมดีกว่าครับ นั่นก็คือ "พลังงานแสงอาทิตย์" นั่นเองครับ!! แน่นอน...จะมีอะไรเหมาะสมกับประเทศไทยของเราที่ร้อนและมีแสงแดดส่องกัน ซะจนคนแทบจะกลายเป็นไก่ย่าง วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง
หลักการของการผลิตไฟฟ้าแบบนี้คือ การใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Cell) รับแสง แล้วแปลงเป็นพลังไฟฟ้าไปเก็บไว้ใช้ ดังนั้นผมว่าน่าจะเริ่มต้นที่ภาครัฐลงทุนให้ก่อนในภาคครัวเรือน ประชาชนก็ใช้ไปที่เหลือก็ขายคืนให้รัฐ หักเป็นค่าผ่อนแผงเซลล์แสงอาทิตย์คืนรัฐไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด ส่วนรัฐก็ขายไฟต่อให้ภาคอุตสาหกรรมหรือประเทศเพื่อนบ้าน 555 แม้ว่าต้นทุนจะแพงแต่ก็น่าจะทำได้จริง
แค่นี้ก็มีแต่ได้กับได้ Win Win ทุกฝ่าย รัฐก็ได้หน้า ชาวประชาก็ได้เงิน แต่ไม่รู้ว่ารัฐบาลไหนจะกล้าได้กล้าเสียพอจะลงทุนนะ..
ข้อดี : ทำได้ตั้งแต่ครัวเรือนถึงขนาดใหญ่, แสงมีทุกพื้นที่ ข้อเสีย : ต้นทุนสูง (แต่จัดการได้)
ที่รองลงมาสำหรับพื้นที่ริมฝั่งและริมเขาก็ "ลม" ไงครับ ข้อสำคัญก็คือต้องมีความเร็วลมพอและต้องมีตลอด หลักการก็คือเอาลมไปเป็นพลังงานหมุนเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้า ผมเห็นบางพื้นที่มีลมจัดๆ ก็ใช้กันอยู่แล้ว แต่ลงทุนเองซะส่วนใหญ่ อันนี้ข้อดีคือ
ข้อดี : ทำได้ตั้งแต่ครัวเรือนถึงขนาดใหญ่, ลมได้มาฟรี ข้อเสีย : ใช้พื้นที่ขนาดกลางและสร้างได้แค่บางพื้นที่
พลังงานที่ใช้กันอยู่แล้วก็เช่นพลังงาน "น้ำ" การทำขนาดครัวเรื่อนทำได้แค่บางพื้นที่ติดน้ำ ขณะที่ขนาดใหญ่ก็ใช้เงินกับพื้นที่มาก แถมยังกระทบคนหมู่มาก ทั้งเหนือเขื่อนและใต้เขื่อน เมื่อมีคนได้คนเสียผลประโยชน์ก็...ไม่จบครับ
ข้อดี : ทำได้ตั้งแต่ครัวเรือนถึงขนาดใหญ่, น้ำได้มาฟรี ข้อเสีย : กระทบคนหมู่มาก ลงทุนสูงและสร้างได้แค่บางพื้นที่
พลังงานที่ใช้กันอยู่แล้วอีกอย่างคือ "ถ่านหิน" ซึ่งไม่น่าจะเวิร์ค เนื่องจากต้องลงทุนมาก ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง ถ่านหินก็มีน้อยลงทุกวัน สรุป ไม่มีข้อดี
ข้อดี : นึกไม่ออก ข้อเสีย : ทำได้แต่โรงงานขนาดใหญ่ ถ่านหินแพง กระทบสิ่งแวดล้อมมาก
พลังงานนิวเคลียร์ หลักการไม่ต้องอธิบายกันมากดีกว่าครับเดี๋ยวจะกลายเป็นหนังสือวิชาการ
ข้อดี : ไม่จำกัดพื้นที่และได้พลังงานมาก ข้อเสีย : ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาก ลงทุนสูงและใช้พื้นที่มาก
สรุป ถ้าจะให้ดีคงต้องใช้หลายๆ วิธีให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่น่าจะดีที่สุดครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น